วันอังคาร, 23 เมษายน 2567

สำหรับผู้หญิงที่กลุ้มใจกับแผลเป็น หลุมสิวแถมยังหน้าแดงดำหมองคล้ำ

11 ก.ค. 2019
666

Q : ดิฉันอายุ 38 ปี สมัยวัยรุ่นเป็นสิวมาก ทำให้ปัจจุบันใบหน้าดิฉันมีแผลเป็นหลุมสิวจำนวนมาก ดิฉันก็รักษามาตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งจี้น้ำกรด กรอหน้า ลอกหน้าด้วยกรด แต่ไม่ได้ผล หลังๆ ก็มาทำเลเซอร์ แต่หลังทำหน้าก็แดง แสบร้อน มีสะเก็ด หลายวัน ช่วงหลักๆ รู้สึกแสบหน้าเวลาถูกแดด หน้าคล้ำลง แดงง่าย

ดิฉันจึงหยุดการรักษาทุกอย่างมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังกลุ้มใจกับแผลหลุมสิวที่ไม่ดีขึ้นเลย แถมยังหน้าแดงๆ ดำๆ คล้ำกว่าเดิมอีก ไม่ทราบว่าคุณหมอมีวิธีการรักษาแบบอื่นที่จะช่วยดิฉันมั้ยคะ รบกวนตอบคำถามด้วยค่ะ ขอบคุณคะ

A : ปัญหาหลุมสิวเป็นปัญหาที่พบบ่อยมาก การรักษาที่ผิดวิธีอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ผิวหน้าบางลง ทำให้เห็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆ หน้าแดงง่ายและไวต่อแสงแดด จากนั้นใบหน้าก็จะคล้ำดำอย่างรวดเร็วหลังถูกแสงแดด

การรักษาที่ถูกต้องจึงควรเน้นไปที่การฟื้นฟูสภาพผิวและทำให้ผิวหนาตัวขึ้น ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่เรียกว่า Skin Booster ซึ่งเป็นการเติมน้ำหล่อเลี้ยงผิวที่เป็นสาร HA ชนิดพิเศษ ที่มีคุณสมบัติ Hydro Balance คือ สามารถสร้างสมดุลความชุ่มชื้นให้เกิดขึ้นในผิวหนังได้ ซึ่งมันจะช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังมีการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนขึ้นใหม่ เพียงเท่านี้ผิวหนังที่บางก็จะค่อยๆ ถูกซ่อมแซมให้ฟูและหนาขึ้น

สำหรับหลุมสิวที่มีพังผืดยึดเกาะใต้แผลนั้น เราก็ใช้เข็มปลายทู่หรือเข็มคมขนาดเล็ก ลงไปตัดเลาะพังผืดบางส่วนออกก่อน จากนั้นก็ฉีดเติมสาร HA ดังกล่าวลงไป ทำให้แผลหลุมยกตัวขึ้น และป้องกันไม่ให้มีพังผืดยึดเกาะใหม่ หลุมสิวก็จะค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งนี้กระบวนการรักษาดังกล่าวจำเป็นต้องทำซ้ำๆ 3-5 ครั้ง หรือประมาณทุกๆ 1-2 เดือน เพราะต้องรอเวลาให้ผิวหนังถูกระตุ้นและฟื้นฟูตัวเองขึ้นมา แต่เมื่อผิวได้รับการฟื้นฟูแล้ว ก็จะพบว่าคุณภาพผิวจะดีขึ้น ทั้งหลุมสิวค่อยๆ ตื้นขึ้น รอยดำ รอยแดงเส้นเลือดฝอยค่อยๆ หายไป อาการแสบหน้า หน้าแดง เวลาถูกแดดก็จะหมดไปด้วยครับ

นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ

ผู้อำนวยการ AIC ศูนย์วัตกรรมความงาม